ชม Nissan Elgrand MY2019 โฉมใหม่…รุกตลาดรถ Van สุดล้ำ!!! เริ่ม 979,000 บาท

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 4 ม.ค 2562
แชร์ 0

ติดตลาดครองใจรถ Van สำหรับครอบครัวและผู้บริหารมายาวนานถึง 20 ปี ใส่ความแรงแบบหมัดแรกกหมัดกับ คู่แข่งมาตลอด โดยเน้นความหรูหราหนึ่งเดียวจาก ที่พร้อมเปิดตัวสำหรับการปรับปรุงโฉมสุดหรูหราตรงกับนิยาม Nissan Elgrand Luxury Van จัดเต็มทุกความเหนือชั้นทุกมิติการขับขี่ที่ลงตัว

ติดตลาดครองใจรถ Van สำหรับครอบครัวและผู้บริหารมายาวนานถึง 20 ปี ใส่ความแรงแบบหมัดแรกกหมัดกับ Toyota Alphard/Vellfire คู่แข่งมาตลอด โดยเน้นความหรูหราหนึ่งเดียวจาก Nissan ที่พร้อมเปิดตัวสำหรับการปรับปรุงโฉมสุดหรูหราตรงกับนิยาม Nissan Elgrand Luxury Van จัดเต็มทุกความเหนือชั้นทุกมิติการขับขี่ที่ลงตัว

และสำรับตลาดรถต้นปี Nissan ต้องการเพิ่มสีสันให้กับวงการรถ Van อีกครั้งจึงจับ Nissan Elgrand Luxury Van มาปรับปรุงใหม่ในเวอร์ชั่น MY2019 จัดเต็มกับระบบรักษาความปลอดภัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ผู้บริหาร ครอบครัวยุคใหม่ เช่น เพิ่มระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง Lane Departure Warning (LDW) ระบบช่วยเหลือรถให้อยู่ในเลน intelligent LI ( lane departure prevention support system) ระบบป้องกันเหยียบคันเร่งผิด (entry prohibition sign detection) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking) ระบบไฟสูงอัตโนมัติ (High beam assist) โดยยกให้เป็นออพชั่นมาตฐานทุกรุ่น นอกจากนี้ ระบบเบรกอัตโนมัติเวอร์ชั่นใหม่สามารถตรวจจับคนเดินถนนได้ (Teradmistake collision avoidance assist) พร้อมระบบล็อกความเร็วอัจฉริยะ (Intelligent cruise control) ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร

ในรูปทรงเดิม Gen3 มาพร้อมมิติการออกแบบที่หรูหราในสไตล์ Van ล้ำๆ กับกระจังหน้าโครเมี่ยมขนาดใหญ่ขึ้นและเพิ่มช่องให้ถี่ขึ้น รับกับช่องไฟตัดหมอกกับไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL พร้อมไฟหน้า LED Headlamp แบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ และ ระบบไฟหน้าอัตโนมัติตามองศาการเลี้ยว (Adaptive AFS) ล้ออัลลอยหลายขนาดตั้งแต่ขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 215/65 R16 และขนาดใหญ่ 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/55 R18 หลังคาแบบ Twin Sunroof , กระจกมองพร้อมไฟเลี้ยวในตัวและพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถ ทันสมัยด้วยสปอยเลอร์หลังบนประตูท้ายพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3

การออกแบบภายในเน้นความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการใช้งานมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น กระจกหน้าต่างไฟฟ้าแบบ One-Touch ที่ติดตั้งระบบดีดกลับอัตโนมัติเมื่อมีสิ่งกีดขวาง, ปุ่ม Push Engine Starter บนคอนโซลหน้า, มาตรวัดเรืองแสงแบบ Fine Vision Meter ที่ช่วยเพิ่มมิติความชัดเจนลงตัวกับพวงมาลัยหุ้มหนังแท้ปรับด้วยระบบไฟฟ้า 4 ทิศทางและหัวเกียร์หุ้มหนังแท้ เพิ่มความหรูหราภายในด้วยการตกแต่งลายไม้สี Black Metallic เบาะนั่งแบบ Captain Seat หุ้มด้วยวัสดุหนังแท้ ทั้ง 7 กับ 8 ที่นั่ง โดยที่เบาะคู่หน้าสามารถปรับไฟฟ้าได้ (ด้านคนขับปรับได้ 8 ทิศทางและผู้โดยสารตอนหน้าปรับได้ 4 ทิศทาง) เบาะที่นั่งตอนหลังสามารถแยกพับแบบ 60:40 ได้ ซึ่งเบาะนั่งทั้งหมดถูกออกแบบให้มีความเหมาะสมกับสรีระ ปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกปรับอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา ห้องโดยสารตอนหลังติดตั้งระบบกรองอากาศ Plasma Cluster ที่ช่วยคัดกรองฝุ่นและไอเสียจากภายนอกสบาย ระบบประตูสไลด์ไฟฟ้าซ้าย-ขวา พร้อมระบบดีดกลับอัตโนมัติเมื่อมีสิ่งกีดขวาง และประตูฝาท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติเพื่อความสะดวกสบาย

ฟากสมรรถนะการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2 ขนาด เริ่มที่ขนาด 2.5 ลิตร QR25DE แถวเรียง 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 245 นิวตันเมตรที่ 3,900 รอบต่อนาที และใหญ่สุดเครื่องยนต์เบนซิน V6 3.5 ลิตร VQ35DE ให้กำลังสูงสุด 280 แรงม้าที่ 6,4000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 344 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที ทั้งสองขนาดเครื่องยนต์จับคู่กับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT-M6 เลือกได้ทั้งรุ่นขับสองและขับสี่

ในส่วนของราคา Nissan Elgrand MY2019 จำหน่ายทั้งหมด 26 รุ่นย่อยขายแล้วที่ญี่ปุ่น เริ่มต้นที่ 3,310,840 – 5,942,160 yen หรือราว 979,000 – 1,757,000 บาท (ไม่รวมภาษีของเมืองไทย)

ดูเพิ่มเติม