ก่อนที่โช้คอัพจะพัง! รถยนต์ของคุณจะส่ง 8 สัญญาณต่อไปนี้

โช้คอัพอีกส่วนหนึ่งของรถยนต์ที่หลายคนไม่ควรมองข้าม เพราะหน้าที่ของมันก็คือเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยรองรับแรงกระแทก นอกจากนี้ก็ยังทำหน้าที่หน่วงการเคลื่อนที่ขึ้นลงของตัวถังรถยนต์ ซึ่งหากโช้คอัพมีปัญหาขึ้นมาละก็แน่นอนว่ามันส่งผลเสียต่อรถยนต์ของคุณแน่เพราะมันจะส่งผลให้รถยนต์ของคุณเสียศูนย์ เมื่อวิ่งทำความเร็ว เข้าโค้งรถจะโคลง ทำให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างยากลำบาก จากรถที่เคยนั่งนิ่มนวลคุณก็จะไม่ได้สัมผัสนั้นอีกต่อไป และร้ายแรงกว่านั้น หากรถจำเป็นต้องเบรคกระทันหันก็จะส่งผลให้รถยนต์พลิกคว่ำได้อย่างง่ายดาย เห็นหรือยังครับว่ามันสำคัญแค่ไหน ก่อนที่มันจะพังมันมีสัณญานเตือต่อไปนี้ครับ รีบเช็ครถยนต์ของตัวเองกันได้เลยด้วย 8 วิธีนี้ครับ

1.เช็คการคืนตัวของโช้คด้วยวิธีการลองออกแรงกดรถยนต์แล้วปล่อย หากตัวรถมีอาการเด้งขึ้นลงหลาย ๆ ครั้งแสดงว่าโช้คอัพเสื่อมสภาพ เพราะโช้คอัพที่ดีเมื่อถูกกดจะยุบตัวและคืนตัวโดยไม่มีการเด้งขึ้น-ลงหลายครั้ง

2.สำรวจรอยรั่วซึมของน้ำมัน โดยตรวจตราบริเวณซีลโช้คอัพ ถ้ามีคราบน้ำมันเปื้อนแสดงว่ามีการรั่วซึม

3.เช็ครูปลักษณ์ของโช้คอัพ ตรวจการบิดเบี้ยวของกระบอกโช้คหรือแกนโช้คควรเป็นทรงกระบอกสมมาตร ไม่ผิดรูปทรง

4.เช็คความร้อนจากโช้คอัพ โดยหลังจากที่ใช้งานรถตามปรกติ เมื่อจอดให้ใช้มือสัมผัสกับกระบอกโช้คอัพทันที ถ้ากระบอกโช้คอัพมีความร้อนแสดงว่าโช้คอัพยังมีสภาพปรกติ แต่หากสัมผัสแล้วกระบอกโช้คอัพมีอุณหภูมิปกติ แสดงว่าโช้คอัพไม่มีการทำงาน

5.ดูอาการโคลงของรถ ขณะเริ่มออกตัวโดยด้วยเร็วปกติแต่หน้ารถเชิดขึ้น และขณะเบรกที่ความเร็วต่ำหน้ารถทิ่มลง แสดงว่าโช้คอัพเริ่มเสื่อมสภาพ

6.สัมผัสจากแรงสั่นสะเทือน มีอาการกระเด้งกระดอนขึ้นลง เมื่อรถวิ่งผ่านเนินเล็ก ๆ หรือคอสะพาน ขณะขับขี่นั้นมีความรู้สึกว่ารถยนต์สั่นไม่นิ่มนวล

7.อาการร่อนของรถ เมื่อใช้ความเร็วสูงรถจะเสียการทรงตัวได้ง่าย เนื่องจากเกิดลมปะทะแล้วโช้คอัพที่ทำงานผิดปรกติไม่สัมพันธ์กันกับกระบอกอื่น ๆ

8.สำรวจตรวจดูหน้ายาง ดอกยางของรถยนต์ หากมีสึกไม่สม่ำเสมอเป็นบั้งทั้งที่ตั้งศูนย์ล้อตรง แปลว่าโช้คอัพมีปัญหา

และถ้าหากรถยนต์ของคุณเกิดอาการผิดปกติข้างต้นนี้ ควรจะรีบนำรถเข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็คและแก้ไขอย่างด่วนครับ จะได้เป็นการตัดไฟแต่ต้นลมกันครับ ปล่อยทิ้งไว้อันตรายต่อตัวเองและเพื่อนร่วมถนนด้วยครับ