หน้าร้อน ที่ร้อนเป็นเตาอบขนาดนี้ มาดูวิธีดูแลรถกันเถอะ

ประสบการณ์ใช้รถ | 29 มี.ค 2560
แชร์ 0

ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว การขับรถในช่วงหน้าร้อนกับแสงแดดแรงจัดกว่าฤดูอื่น ทำให้ผู้ขับขี่มีสายตาพร่ามัวและเกิดอาการง่วงนอนง่ายกว่าปกติ และถ้าไม่ดูแลอุปกรณ์ประจำรถและเครื่องยนต์ให้พร้อมใช้งาน ก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ


 
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว การขับรถในช่วงหน้าร้อนกับแสงแดดแรงจัดกว่าฤดูอื่น ทำให้ผู้ขับขี่มีสายตาพร่ามัวและเกิดอาการง่วงนอนง่ายกว่าปกติ และถ้าไม่ดูแลอุปกรณ์ประจำรถและเครื่องยนต์ให้พร้อมใช้งาน ก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)​ ​จึงแนะวิธีตรวจสอบและดูแลรักษาอุปกรณ์ประจำรถยนต์ เพื่อให้การเดินทางในช่วงหน้าร้อนเป็นไปด้วยความปลอดภัย ดังต่อไปนี้

​- ​เลือกติดตั้งฟิล์มกรองแสง​ ที่ได้มาตรฐาน
 

 เพราะฟิล์มกรองแสง จะช่วยลดความร้อนและสะท้อนแสงในระดับที่เหมาะสม รวมถึงช่วยลดความจ้าของแสงอาทิตย์ ที่ทำให้ผู้ขับขี่ต้องเพ่งสายตามองเส้นทาง ส่งผลให้ง่วงนอนง่ายกว่าปกติ ทั้งนี้ไม่ควรติดตั้งฟิลม์กรองแสงที่สะท้อนแสงมากจนเกินไป เพราะแสงแดดจะทำมุมกับกระจกรถและสะท้อนเข้าตาผู้ขับรถคนอื่น ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้

​- ​หมั่นทำความสะอาดกระจกหน้าและหลังรถอยู่เสมอ
 

ฉีดน้ำยาเช็ดกระจกแล้วใช้ผ้าแห้งหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ทำความสะอาดกระจก รวมถึงเปิดใบปัดน้ำฝนเช็ดทำความสะอาดกระจกโดยอาจเติมน้ำยาทำความสะอาดหรือแชมพูลงไปในกระปุกน้ำฉีดกระจกเล็กน้อย ก็จะช่วยล้างคราบสกปรกและฝุ่นละอองได้สะอาดมากยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญ คือ ไม่ควรใช้ที่ปัดน้ำฝนทำความสะอาดในขณะที่กระจกแห้ง เพราะจะทำให้กระจกเป็นรอยขีดข่วน ส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยในการมองเส้นทาง

​- ​ตรวจสอบยางรถยนต์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ
 


ช่วงฤดูร้อนผิวถนนมีอุณภูมิที่สูงกว่าปกติ ทำให้อากาศภายในยางรถยนต์ขยายตัวขึ้น ส่งผลให้ยางเสื่อมสภาพและเสี่ยงต่อการระเบิดได้

​- ​ตรวจสอบน้ำในหม้อน้ำให้บ่อยครั้งขึ้น​​
 

​ตรวจเช็คน้ำ​ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อป้องกันเครื่องยนต์ร้อนจัด โดยเฉพาะรถที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปี ควรตรวจสอบทุกสัปดาห์

หมั่นเติมน้ำสะอาดเมื่อน้ำเริ่มพร่องและขณะขับรถควรสังเกตเข็มวัดระดับความร้อนบนหน้าปัดรถยนต์เสมอ ซึ่งมีค่าระหว่าง COLD (C) กับ HOT (H) หากระดับน้ำในหม้อน้ำพร่องลง ค่าความร้อนจะสูงขึ้น ส่งผลให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายได้

กรณีหม้อน้ำแห้งขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน ผู้ขับขี่ไม่ควรฝืนขับรถต่อ เพราะอาจเกิดอันตรายขึ้นได้ ให้นำรถจอดริมข้างทางและไม่ควรดับเครื่องยนต์และเติมน้ำในหม้อน้ำทันที​

ให้ติดเครื่องยนต์เดินเบาสักระยะ พร้อมเปิดฝากระโปรงหน้ารถ รอจนอุณภูมิลดลงและเครื่องยนต์เริ่มเย็นตัว จึงเปิดฝาหม้อน้ำแล้วค่อย​ ​ๆ​ ​เติมน้ำสะอาดลงไปทีละน้อย ที่สำคัญที่สุด คือ ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำในขณะที่เครื่องยนต์ร้อนจัด เพราะจะได้รับอันตรายจากไอน้ำที่พุ่งขึ้นมาได้

ติดตามข่าววงการยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
Car.kapook