ชมรถยนต์ใหม่ รถต้นแบบทั้งหมดในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37

สำหรับวันนี้เป็นวันที่ 2 แล้วสำหรับงานมหกรรมยานยนต์ครั้งยิ่งใหญ่ในบ้านเราอย่างงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 (ฺBangkok Interntional Motor Show 2016) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2559 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี เราก็ได้รวมเอารถใหม่ภายในงานนี้มาใหเพื่อนๆ ได้ชมกันครับ

-ASTON MARTIN DB11 เปิดตัวครั้งในในเอเชียแปซิก เครื่องยนต์ V12 ความจุ 5.2 ลิตร ทวิน-เทอร์โบชาร์จให้พละกำลังสูงสุด 600 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตรมาที่รอบต่ำเพียง 1,500 รอบ/นาที นั่นจึงทำให้ DB11 เป็นรถตระกูลดีบีที่แรงที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา

-BMW 330e EV ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ทวินเพาเวอร์ เทอร์โบ ดีเซล 4 สูบ รุ่นใหม่ล่าสุด 1,998 ซี.ซี. และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 88 แรงม้า ให้กำลังรวมสูงสุด 252 แรงม้าสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แบตเตอรี่ไฮบริดสามารถชาร์จไฟได้จากปลั๊กไฟบ้านทั่วไป และขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ไกลถึง 40 กิโลเมตร

-Chevrolet Trailblazer Premier ถูกออกแบบด้านหน้าใหม่ทั้งหมด ด้วยไฟหน้าทรงเหลี่ยม ออกแบบรับกับกระจังหน้าขนาดใหญ่ ใช้ตัวถังสีฟ้าเฉดเงิน Velocity ติดตั้งสปอยเลอร์หลัง ชุดกันกระแทกด้านท้าย บันไดข้างในตัวพร้อมตกแต่งด้วยโครเมี่ยมสีสว่าง ติดตั้งล้ออัลลอยและยางขนาด 22 นิ้ว

-Chevrolet Captiva รุ่นปี 2016 โฉมใหม่ เป็นรถเอสยูวีรุ่นแรกในประเทศไทยที่รองรับ Apple Carpay ผ่านระบบมายลิงค์แสดงข้อมูลผ่านหน้าจอทัชสกรีนขนาดเจ็ดนิ้ว และทีเด็ดของค่ายก็เห็นจะเป็นรถกระบะต้นแบบ Corolado Xtreme ที่คาดว่ามันคือว่าที่โคโรล่าโด โฉมถัดไป ต้องบอกว่าได้รับความสนใจอย่างมากเลยทีเดียว

-New Ford Focus Ecoboost พัฒนาใหม่ด้วยการนำเครื่องยนต์อีโคบูสต์ ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ กำลังสูงสุด 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ด้วยเทคโนโลยีของเครื่องยนต์อีโคบูสต์ที่รวมถึงระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ ระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงแรงดันสูงแบบไดเร็กอินเจ็ก ชั่น และระบบแปรผันแคมชาฟท์แบบอิสระคู่ ช่วยมอบพละกำลัง แรงบิดที่ดีกว่าเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรแบบทั่วไป ทั้งยังประหยัดน้ำมันยิ่งกว่า นอกจานี้ก็มีฟอรืด เฟียสต้า รุ่นพิเศษ ดำ-แดง สุดเท่ห์อีกด้วย

– Hyundai Genesis ค่ายนี้นอกจากจะนำรถตู้ H-1 และ แกรนด์ สตาเร็กซ์ ที่เพิ่ดเปิดตัวไปก่อนหน้านี้และในงานนี้การเปิดตัวรถในรุ่น Genesis (เจเนซิส) ด้วย รถยนต์ที่เพียบพร้อมด้วยความหรูหราจากดีไซน์ทั้งภายในและภายนอก สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น เทคโนโลยี อุปกรณ์และคุณสมบัติอื่นๆ ที่ล้ำสมัยเหนือระดับกว่าใคร โดดเด่นด้วยการออกแบบในแนวคิด Fluidic Sculpture 2.0 ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.8 ลิตร 6 สูบ ให้กำลังม้าสูงสุด 308 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 397 นิวตันเมตร เชื่อมต่อกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ

-All New Honda Civic 2016 ซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นที่ 10 แล้ว เน้นการออกแบบตัวรถที่ดูสปอร์ต ล้ำสมัย มาพร้อมรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว และหรูหรา ด้วยเส้นสายด้านข้างตัวรถที่คมชัด ดุดันมากยิ่งขึ้น มาพร้อมกับเครื่องยนต์ มีให้เลือก 2 ขนาดคือ 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 174 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที ทั้งยังรองรับพลังงานทางเลือก E85 และ 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO ใหม่ ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ซึ่งทั้งเครื่องยนต์และระบบเกียร์ดังกล่าว ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700-5,500 รอบต่อนาที ซึ่งให้กำลังเทียบเท่าเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร แต่ประหยัดน้ำมันเทียบเท่าเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร

-ISUZU MU-X 1.9 Ddi Blue Power ครั้งแรกของรถยนต์อเนกประสงค์ระดับหรูที่ใช้เครื่องยนต์ 1,900 CC ที่มาพร้อมชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแบบใหม่ สะดวกสบายอีกระดับด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control มีให้เลือกระบบขับเคลื่อนทั้งแบบ 4 ล้อ หรือ 2 ล้อ และยังมาพร้อมกระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติพร้อมกล้องบันทึกภาพวิดีโอด้านหน้า ซึ่งเป็นครั้งแรกของรถอเนกประสงค์ในไทยที่มีระบบนี้

-Lexus RC200t รถสปอร์ตคูเป้ระดับหรูแห่งอนาคตที่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มีความภูมิใจในการนำเสนอสู่ผู้บริโภคชาวไทย ภายใต้แนวคิดการพัฒนาที่เรียบ ง่ายแต่ชัดเจนในเรื่องของดีไซน์ที่ร้อนแรง และเร้าใจด้วยเครื่องยนต์ เทอร์โบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมระบบเกียร์แบบ 8-Speed Sport Direct Shift (SPDS) ส่วนราคาอยู่ที่ 5,490,000 บาท

-Lamborghini Aventador LP 700-4 แบบคูเป้ราคาเริ่มต้น 38.5 ล้านบาท และแบบโรดสเตอร์ ราคาเริ่มต้น 40.5 ล้านบาท บรรจุเครื่องยนต์ 12 สูบ น้ำหนักแห้งอยู่ที่ 1,575 กิโลกรัม พละกำลัง 700 แรงม้า (515 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 690 นิวตันเมตร แข็งแกร่งที่สุด เท่าที่แลมโบร์กินีเคยสร้างมา แรงและเร้าใจด้วยอัตราการเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 350 กม./ชม. ด้วยประสิทธิภาพของระบบเกียร์ 7 speed ISR เปลี่ยนเกียร์ใช้เวลาเพียง 50 มิลลิวินาที

-MCLAREN 570S เป็นรถโมเดลแรกที่พัฒนาภายใต้ไลน์สปอร์ตซีรีส์ (Sport Series) ซึ่งสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.2 วินาที น้ำหนักตัวถังอยู่ที่เพียง 1,313 กก. เท่านั้น ส่วนเครื่องยนต์ยังคงเป็นเบนซิน V8 สูบ 3.8 ลิตร ทวิน-เทอร์โบชาร์จ รหัส M838TE วางกลางตามยาว กำลังสูงสุดลดลงตามชื่อรุ่นคือ 570 แรงม้า แรงบิด 61.1 กก.-ม. ส่งกำลังไปขับล้อคู่หลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ SSG หรือ Sequential Shift Gearbox ความเร็วสูงสุด 328 กม./ชม. อัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย 258 กรัม/กม.

-MG GS รถเอสยูวีโมเดลล่าสุดจากค่ายรถสัญชาติอังกฤษ ฐานผลิตที่จีน ซึ่งได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “บริท ไดนามิก” (Brit Dynamic) ที่มากับเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลัง 220 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ DCT 7 สปีด นอกจากนี้ยังสามารถเลือกระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไว้ใช้งานได้ด้วย

-Mercedes-Benz New E-Class ซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นที่ 10 ในตระกูล E-Class ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นที่สุดแห่งยนตรกรรมซีดานอัจฉริยะ ทั้งในเรื่องสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันและการปล่อย ก๊าซ CO2 ลงได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมกันนี้ในงานนี้ท่านก็จะได้พบกับ The new C-Class Coupé เจเนอเรชั่นล่าสุด คือ The new C 250 Coupé AMG Dynamic และ The new C 250 Coupé Edition 1 รุ่นพิเศษ ที่จะจำหน่ายในเดือนธันวาคมนี้อีกด้วย และที่เด็ดสุดก็คือตัวแรง Mercedes-AMG C 63 S Coupé เป็นรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นล่าสุดจากค่าย Mercedes-AMG ที่ยกระดับ “สมรรถนะการขับขี่” ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยพละกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 4 ลิตร

-MINI Convertible รถยนต์มินิเปิดประทุน 2 ประตู 4 ที่นั่งโมเดลล่าสุดที่ก่อนหน้านี้เปิดตัวที่ โตเกียว มอเตอร์ โชว์ซึ่งในเจเนอเรชั่นนี้นับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 แล้ว มาพร้อมกับเครื่องยนต์เป็นบล็อกเบนซิน 3 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร พละกำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร (230 นิวตันเมตรในโหมดโอเวอร์บูสต์) ส่วนดีเซลมีพละกำลัง 116 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร (300 นิวตันเมตรในโหมดโอเวอร์บูสต์)

–Mitsubishi Triton Double Cab Plus GLS-LTD กระบะสายพันธุ์แกร่งที่มาพร้อมชุดแต่งพิเศษ และมีการเพิ่มสีใหม่เป็นสีพิเศษฟ้า Impulse Blue ที่ใช้เครื่องยนต์ MIVEC CLEAN Diesel ขนาด 2.4 ลิตร ที่ให้ความสมดุลของสมรรถนะและความสามารถในการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 20%

-Nissan Almera Nismo Performance Package ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นปรากฎการณ์ครั้งสำคัญที่ภายในงานนี้นิสสันประเทศไทยได้เปิดตัวแบรนด์ NISMO (นิสโม) ครั้งแรกอย่างเป็นทางการในประเทศไทย นอกจากนิ้ก็ยังพ่วง Almera Nismo Aero Package มาด้วยทีเด็ดของบูธก็คือ Nissan GT-R NISMO สุดยอดซูเปอร์สปอร์ตคาร์แดนซามูไร ที่คว้าชัยชนะมาแล้วหลายสนาม มาสร้างความคึกคักภายในงานนี้ด้วย

-Porsche 911 Carrera รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งทำการเปิดตัวในเยอรมันช่วงปลายปี 2015 ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์รุ่นใหม่พร้อมด้วยตัว Bi-turbo charging ส่งผลให้เพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่มากยิ่งขึ้น โดย 911 คาร์เรร่า (Carrera) มีพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 370 แรงม้า (272 กิโลวัตต์) จากเครื่องยนต์ที่ติดตั้งทางด้านหลัง ส่วนรุ่น 911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) มีพละกำลังเครื่องยนต์สูงถึง 420 แรงม้า (309 กิโลวัตต์) โดยทั้ง 2 รุ่น เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมถึง 20 แรงม้า (15 กิโลวัตต์) นอกจากนี้เครื่องยนต์ทั้ง 2 รุ่นมีขนาดความจุที่ 3 ลิตร พละกำลังเครื่องยนต์ที่มากกว่าของรุ่น 911 จาก

-Rolls-Royce Motor Cars จัดแสดง “คชมงคล” Ghost Extended Wheelbase เฉพาะประเทศไทย คันเดียวในโลก ยนตรกรรมหรูที่ได้รับการออกแบบสั่งทำพิเศษ โดยนำรถที่นำมาสั่งทำพิเศษเป็นรถ “Rolls-Royce Ghost” รุ่นขยายฐานล้อ “คชมงคล” ประดับด้วยลวดลายช้างทั้งด้านนอกและด้านในรถ เนื่องจากได้รับแรงบันดาลใจจาก “ช้าง” ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญประจำประเทศไทย

-Suzuki Swift Sai รุ่นพิเศษที่มาพร้อมกับสีสันแปลกตาอย่างสีม่วง Moonlight Violet ภายนอกโดดเด่นสะดุดตาด้วยกระจังหน้าและกันชนดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟส่องสว่าง LED ล้ออะลูมิเนียมอัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว แสดงความลิมิเต็ดอิดิชั่นด้วยสติ๊กเกอร์ติดฝาถังน้ำมัน Sai Edition ภายในเลือกใช้โทนสีดำ เบาะนั่งดีไซน์ใหม่ ผสมผสานหนังคุณภาพสูง ดูลงตัวกับความสปอร์ตที่เป็นสัญลักษณ์ของสวิฟท์ ส่วนเครื่องยนต์ยังคงเดิม รหัส K12B ขนาด 1.25 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว

-Subaru Forester รุ่นปรับปรุงใหม่ โดยรูปลักษณ์ภายนอกเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 150 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 198 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 6.5-6.9 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร

–Subaru VIZIV Future Concept คือรถยนต์ต้นแบบประเภท SUV ที่สื่อถึงวิสัยทัศน์การพัฒนายานยนต์ในอนาคตด้วยแนวคิด “ความเพลิดเพลินและความรื่นรมย์” ที่ซูบารุต้องการมอบให้กับลูกค้า นอกจากรูปลักษณ์ดีไซน์ใหม่ เทคโนโลยีที่อัดแน่นในรถก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นเจ้าของรถให้อยากขับและมีพลังอยู่ตลอดเวลา

-Ssangyong Tivoli อเนกประสงค์ขนาดกะทัดรัดที่ ได้รับการพัฒนามาจากรถต้นแบบ XIV รุ่นที่นำเข้ามาขายในไทยนั้นเป็นรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1,600 ซี.ซี. คอมมอลเรล เทอร์โบดีเซล DOHC 4 สูบแถวเรียง มาพร้อมกับระบบเกียร์อัจฉริยะอัตโนมัติ 6 สปีด แบบ E Tronic ให้กำลังแรงม้า 115 แรงม้าแรงบิดที่ 300 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสามารถทำได้ที่ 175 กิโลเมตร/ชั่วโมง

-New TR Transformer II โฉมใหม่ รถแบรนด์คนไทย เป็นรถตรวจการณ์ที่ให้มีคุณสมบัติเหนือกว่ารถ PPV ทั่วไป ออกแบบโดยMr.Steve Harper สุดยอด Car Designer จาก Shado Car Design โดยได้แรงบันดาลใจจากสุดยอดซุปเปอร์ฮีโร่ IRON MANสามารถปรับรูปแบบที่นั่งโดยสารได้ ตั้งแต่ 5–11 ที่นั่ง และมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระมาก ตัวถังยกสูง สามารถลุยน้ำได้ไม่น้อยกว่า 50 ซม.

-The all-new Volvo XC 90 ด้วยคอนเซ็ปต์ “A New Beginning” ซึ่งเป็นรถรุ่นแรกที่เผยโฉมด้วยตราสัญลักษณ์/เครื่องหมายการค้าใหม่ของ Volvo มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ Drive-E Powertrains ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ให้ตลาด เป็นความลงตัวระหว่างสมรรถนะกับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทุกหยดอย่างมี ประสิทธิภาพยิ่ง เครื่องยนต์ 2,000 ซี.ซี. แถวเรียง 4 สูบรูปแบบใหม่ ซึ่งมีทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล ติดตั้งเทอร์โบชาร์จจัดสรรพลังแรงได้ครอบคลุมและหลากหลาย ทั้งยังให้การประหยัดเชื้อเพลิงอย่างดีเยี่ยม

-Toyota Yaris TRD Sportivo มาพร้อมชุดแต่งสปอร์ตรอบคัน เท่เต็มอารมณ์กับ LED Daytime Running Lights และไฟตัดหมอก พร้อมเพิ่มความเท่ด้วยชุดแต่งหลังคา และสัญลักษณ์ TRD Sportivo ดีไซน์โดดเด่น ทั้งด้านหน้าและด้านหลังภายในสปอร์ตเท่ด้วยชุดเบาะหนังสีดำสลับส้ม เพิ่มคสามดุดันและร้อนแรง เครื่องเล่น DVD พร้อมจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ที่มีช่องต่ออุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็น USB Micro HDMI SD Card Bluetooth รองรับระบบ T Connect อีกด้วย

– Toyota C-HR Concept รถต้นแบบครอสโอเวอร์ 5 ประตูที่ก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวในงานเจนีวา มอเตอร์ โชว์ ที่ขณะนี้กำลังขึ้นไลน์ผลิตในประเทศตุรี และคาดว่าจะมาทำตลาดในไทยในปี 2018 นี้

-Mazda CX-3 Racing Concept เน้นจิตวิญญาณแห่งความสปอร์ตในแบบฟรีสไตล์ ครอสโอเวอร์ด้วยชุดแต่งดีไซน์เต็มพิกัดรอบคัน เพิ่มความโดดเด่นสไตล์สปอร์ตทั้งภายนอกและภายในอย่างอิสระไร้ขีดจำกัดกับชุด แต่งเสกิร์ตรอบคันจาก Mazdaspeed ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมไปอีกขั้นด้วยการตกแต่งกรอบหลังคาสีดำ เพิ่มความดุดันด้วยกรอบไฟตัดหมอกสีดำเงาและสติ๊กเกอร์ออกแบบมาโดยเฉพาะ ตกแต่งรอบคันในสไตล์สปอร์ต และโดดเด่นกว่าใครด้วยล้ออัลลอยด์สีดำเงาพิเศษขนาด 20 นิ้ว VSF1 พร้อมดุมล้อสีดำจาก Rays และยาง Toyo Extensa HP ขนาด 225/35 R20 (หน้า) และขนาด 245/35 R20 (หลัง)

-TATA Xenon 150 NX-PLORE 4WD เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ขนาด 2.2 ลิตร รุ่นใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 ซึ่ง ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย จะวางตลาดในช่วงปลายปี 2559 นี้