น.ส.ฌนิฏา สุขขวัญ กล่าวว่า จากกรณีผู้ใช้รถยนต์ฟอร์ด รุ่นโฟกัส เฟียสต้า และรุ่นอื่นๆ ได้รวมตัวกันร้องเรียนต่อ สคบ. ให้ดำเนินการกับบริษัทรถยนต์ฟอร์ด กรณีผลิตและจำหน่ายสินค้ารถยนต์บกพร่อง ทำให้ผู้ใช้รถฟอร์ดจำนวนมากต้องเสี่ยงอันตรายจากปัญหาต่างๆ อาทิ ระบบเกียร์หยุดทำงานกะทันหันขณะขับขี่ ประตูรถเปิดออกเองขณะขับขี่ และระบบระบายความร้อนบกพร่อง ทำให้เกิดเหตุไฟไหม้รถยนต์ฟอร์ดแล้วเป็นจำนวนมากถึง 11 คัน ในเวลาเพียงหนึ่งปีที่ผ่านมา โดยผู้บริโภคกว่า 300 รายได้ลงชื่อร้องเรียนปัญหาดังกล่าวต่อ สคบ. อย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้เคยเข้าร้องเรียนต่อ สคบ. แต่ ทางสคบ. เงียบไปไม่มีการประสานงานใดๆ ต่อ จึงสอบได้ถามความคืบหน้าไปทางหน้าเพจของ สคบ. แต่กลับได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่า “สคบ. ขอยุติการดำเนินการคุ้มครองผู้เสียหายรถยนต์ฟอร์ด โดยอ้างเหตุว่ามีผู้ใช้รถยนต์ฟอร์ดจำนวนหนึ่ง (10 ราย) รวมกลุ่มกันยื่นฟ้อง บริษัทฟอร์ดต่อศาลแพ่ง เป็นเหตุให้ สคบ.ไม่จำเป็นต้องดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภครายอื่นๆ ที่เหลืออีกต่อไป” ซึ่งตนอยากชี้แจงว่า การฟ้องแบบกลุ่มเมื่อ 3 เม.ย. 2560 ที่ผ่านมา มีโจทก์ร่วมฟ้องเพียง 10 คน ส่วนคนอื่นๆ อีกกว่า 300 คน เป็นเพียงยื่นรายชื่อให้ศาลรับทราบว่านอกจาก 10 คนที่ยื่นฟ้อง ยังมีผู้เสียหายอีกเป็นจำนวนมาก แต่ผู้เสียหาย 300 กว่าคนนี้ ไม่ได้มีสถานะเป็นโจทก์ร่วมฟ้อง และศาลยังไม่มีคำวินิจฉัยว่าจะรับเป็นคดีแบบกลุ่มหรือไม่ เท่ากับว่า 300 กว่าคนนี้ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการฟ้องศาลแต่อย่างใด ซึ่ง 1 ในผู้เสียหายกล่าวว่า วินาทีแรกที่ได้ยินเจ้าหน้าที่ สคบ. ขอยุติบทบาทการช่วยเหลือ ช็อก ตกใจมาก ว่านี่หรือหน่วยงานรัฐ ซึ่ง สคบ.จะอ้างเหตุผลว่าพวกเราไปฟ้องศาลแล้วจึงขอยุติกระบวนการช่วยเหลือคุ้มครองแบบนี้ไม่ได้ หมายความว่าหน่วยงานรัฐช่วยอะไรไม่ได้ และไม่คิดจะช่วยอยากให้หน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็น สคบ. หรือผู้ตรวจการแผ่นดิน เห็นใจในความทุกข์ร้อนของผู้บริโภคอยากขอความยุติธรรมและการเยียวยา พวกเราไม่ได้อยากซื้อรถมาซ่อม
จะเห็นว่า FB ของผู้ใช้ช่างเอก สายไหม โพสต์แบบนี้!!